London Street เป็นคอมมูนิตี้ ฟู๊ดมอลล์ต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทยครับ ซึ่งบมจ. MK Restaurant Group ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาทบนเนื้อที่ประมาณ 1.8 ไร่ครับ
การเดินทางมาไม่ยากครับ ขับมาตามเส้นพัฒนาการ London Street จะอยู่เลยซอยพัฒนาการ 43 มาเล็กน้อย เห็นเด่นชัดแน่นอนกับ Big Ben ทางด้านหน้ามอลล์ครับ แถมวันที่ผมไป(เสาร์ที่ 28/03/2015 ช่วงเที่ยง) ด้านหน้า London Street ยังมีพนักงานคอยยืนโบกธงยังกับขายโครงการของคอนโดเลย
![]() |
แผนที่จาก http://www.londonstreetpattanakarn.com/ |
สิ่งที่ยากลำบากนิดนึงในช่วงแรกคือด้วยความเป็นของใหม่ ทุกคนอยากมาสัมผัสอยากมาเห็นครับ ที่จอดรถของมอลล์รองรับรถได้แค่ 70 คัน ทำให้ต้องขับไปจอดในที่จอดของโลตัสที่อยู่ติดกันครับ จอดฟรี ซึ่งรถในโลตัสติดแน่นเลยทีเดียวอาจต้องใช้เวลาหาที่จอดสักพัก ระยะทางจากที่จอดของโลตัสกับ London Street ก็ไม่ไกลครับ เรียกว่ารั้วติดกันเลย
ด้านนอกของ London Street ตกแต่งเป็นเหมือนกับ Big Ben ส่วนภายในมีชั้นเดียวบวกกับชั้นจอดรถใต้ดิน มีการจำลอง London Bus, London Taxi มาตั้งด้านใน แถมมีเป็นป้ายรถไฟใต้ดินเวลาลงไปที่จอดรถชั้นใต้ดินด้วยนะเออ
อีกสิ่งที่ผมชอบคือถ้าดูจากรูปด้านล่าง ตรงโคนป้าย Underground จะเห็นดอกไม้อยู่ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นบันไดเดินขึ้นไปยังร้านอาหารร้านนึง แต่ทางมอลล์ได้นำกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีมาวางเรียกตรงบันได ผมเข้าใจว่าน่าจะประมาณ 10 กระเช้า กลายเป็นจุดถ่ายรูปอีกจุดนึงสำหรับคนที่มาเลยทีเดียว และด้านหลังยังมีสวนหย่อมขนาดเล็กให้นั่งด้วยครับ (คิดว่าตอนเย็นท่าทางน่านั่ง นั่งกลางวันไม่ไหวแน่ ร้อนมาก)
เนื่องจากเป็นช่วงเปิดใหม่ก็จะมีแจกป๊อปคอร์น แจกสายไหมตามจุดต่างๆให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาครับ
ภายใน London Street มีร้านอาหารทั้งหมด 5 ร้านครับ โดยทั้งหมดเป็นร้านในเครือ MK นั่นเองครับ หน้าร้านแต่ละร้านจะมีพนักงานคอยเรียกลูกค้า คอยให้คำแนะนำเมนู จุดเด่นของแต่ละร้าน ซึ่งจะไม่มีขายสินค้าหรือบริการอย่างอื่นเลย เป็นฟู๊ดมอลล์คอมมูนิตี้อย่างแท้จริง
แล้วถ้าเราอยากจะซื้อของล่ะ? แน่นอนครับว่ามีโลตัสอยู่ติดกันเลย สามารถไปซื้อของที่นั่นแล้วก็มาทานอาหารที่ London Street ซึ่งก็จะได้ลูกค้าทั้งกลุ่มที่ตั้งใจมาทานอาหารอย่างเดียว และอีกกลุ่มที่มาซื้อของที่โลตัส
ลองมาไล่ดูทีละร้านนะครับ
1. MK แน่นอนว่าร้านแรกคือ MK ครับ เป็นสุกี้ที่เราคุ้นเคยกันดีทั้งรสชาติ การบริการที่ดีเยี่ยม และท่าเต้นของพนักงาน (แต่เหมือนช่วงหลังผมไม่เห็นมีเต้นแล้วนะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน) หน้าร้านตกแต่งสวยดีครับ แต่ทำไมต้องดั้นด้นมากินที่สาขานี้หละ ห้างแถวบ้านก็มีนี่นา ลองมาดูกันครับ
Exclusive Menu ของร้าน MK เพื่อเข้ากับthemeความเป็นผู้ดีอังกฤษ จึงมีชุด High tea set เบาๆ(!?) มาทานคู่กับการจิบชายามบ่าย ในเมนู MK London Signature ซึ่งแว๊บแรกที่เห็นตกใจกับจานหมูแดงหมูกรอบอยู่เหมือนกันครับ 555+
นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมกะทิพร้อมเครื่องใน London Street Delight ด้วยครับ (แต่แอบเห็นว่าร้าน เลอ สยามก็มีเมนูนี้)
2.Le Siam ว่าถึง เลอ สยาม ก็ต่อเลยครับว่านี้คือร้านที่สองใน London Steet ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยครับ ทานครบ 700 บาทรับกระเป๋าอเนกประสงค์ฟรีจ้า ยังไม่มีโอกาสได้ทานร้านนี้เลย ขอติดไว้ก่อนนะครับ
3.Miyazaki ร้านนี้เป็นร้านที่ผมได้มีโอกาสได้ทานแล้วชื่อว่า Miyazaki เป็นร้านเทปันยากิ ในเว็บของLondon Street ลงไว้ว่าสาขานี้ใช้อุปกรณ์จากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไว้มีโอกาสจะมาเขียนรีวิวนะครับ
4.Yayoi ร้านที่ 4 เราอาจจะคุ้นตากันดีอยู่แล้วครับสำหรับ Yayoi แต่พอมาอยู่ที่ London Street แล้วไม่ค่อยคุ้นเลยแหะ themeร้านเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีดำ เรียกว่าดูพรีเมียมขึ้นเยอะเลย ทานครบ 700 บาทรับกระเป๋าใบจิ๋ว 1 ใบจ้า
5.Le Petit ร้านที่ 5 คือร้านอาหารและคาเฟ่โดยที่อาหารจะเน้นไปที่สปาเก็ตตี้ และสลัดครับ ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่ 2 ต่อจากสาขาแรกที่อยู่ที่ศิริราชครับ ปกติไปศิริราชไม่เคยทานเลยถือโอการทานร้านนี้แหละ
ลองมาดูเมนูกันครับทั้งสปาเก็ตตี้ สลัด ชุดhigh tea set และขนมหวาน
ดูเมนูแล้วน่าทานมาก ราคาก็เป็นมิตรดี ไม่รอช้าครับสั่งเลย ระหว่างรออาหารพนักงานก็จะนำนิตยสารมาให้นั่งอ่านรอครับ เอาเป็นว่าเรามาดูกันทีละเมนูนะครับ
เมนูแรกซุปฟักทองครับ หน้าตาดูดีใช้ได้เลย เสิร์ฟมาพร้อมกันขนมปังกระเทียม รสชาติก็ดีครับ หวานฟักทองและตัวซุปก็ข้นดี ไม่เหลว ขนมปังก็หอมกระเทียมครับไม่เค็มเนยเกินไปแบบที่ทานในบางร้าน เมนูนี้แค่ 79 บาทครับ อันนี้ชอบครับ คุ้ม ให้ผ่าน
เมนูที่สองคือ เลอ สโม๊คแซลมอน สลัด ผักสดกรอบ ตัวสโม๊คแซลมอนก็ใช้ได้ครับ แต่น้ำสลัดส่วนตัวผมคิดว่าหวานไปหน่อย แต่พอทานด้วยกันทั้งผักทั้งเนื้อปลาแล้วก็โอเคขึ้นครับ ใช้ได้
จานนี้สั่งมาทานเล่นครับมันฝรั่งทอด เสิร์ฟมากับซอส 3 แบบมีซอสมะเขือเทศ วาซาบิ อีกอันไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ลองอันนี้ครับ รสชาติดีตามมาตรฐานครับ ผ่าน
จากพระเอกของมื้อนี้ครับ เลอ สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งแม่น้ำ หน้าตาดูดีมากครับ กลิ่นต้มยำชัดเจนดีเครื่องทุกอย่างใช้ได้ กุ้งเนื้อไม่เละ เห็ดก็เคี้ยวกรุบ แต่รสมันหวานนำครับ นำโด่งเลย เสียดายเหมือนกันแหะจานนี้ ถ้าลดหวานเพิ่มเค็มเปรี้ยวอีกนิดนี่ชอบเลย
เมนูของหวานล้างปากครับ เลอ เพอทิท แพนเค้ก สิ่งที่คิดในใจตอนเห็นครั้งแรกคือ "เสียใจอ่ะ" ไม่มาเป็นชั้นแบบในรูป เนื้อมันบางกว่าในรูปเหมือนผมทำกินเองที่บ้านเลยฮะ รสชาติอร่อยมาตรฐานครับ
ขอเล่าความโง่ของตัวเองหน่อยครับ ก่อนมาLondon Street เห็นในข่าวและในOfficial Line ของ MK ว่าวันนี้แจกขัตรสมาชิกลูกค้า 500 คนแรกฟรี ใช้ได้ทุกร้านในเครือ ผมก็นึกว่าได้แน่นอนนี่เพิ่งบ่ายโมงเอง ทั้งมอลล์ตอนนี้น่าจะไม่ถึง500หรอก เลยเรียกคิดเงินตามปกติไม่ได้ถามอะไร พนักงานถามว่ามีบัตรสมาชิกไหมก็บอกไปว่าไม่มี นั่งรอเงินทอนสบายใจคิดว่าเดี๋ยวพอทอนเงินเสร็จพนักงานจะเอาบัตรมาให้ด้วย แต่พอพนักงานมากลับมีแค่เงินทอนเลยลองถามดูได้ความว่าบัตรหมดแต่เช้าแล้วครับ!! เดี๋ยวนะ London Street มันเปิด 10 โมงไม่ใช่เรอะ คนมากินมื้อไหนกันเนี่ย 5555 ผมเลยสมัครบัตรสมาชิกไป แทนที่จะถามและสมัครก่อนจ่ายเงิน ไม่น่าเลย - -"
รวมค่าเสียหายมื้อนี้ค่าอาหาร 773 บาท ไม่รวมสมัครสมาชิกครับ (ร้านนี้ไม่คิด SC และบริการน้ำเปล่าฟรีครับ)
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ครั้งหน้าจะมาต่อพาร์ท 2 ที่เกาหลีครับผม
ปล. แก้ไขราคาจาก790 เป็น773ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น